บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 3
วันที่ 22 สิงหาคม 2561
อาจารย์ให้นักศึกษาหาข้อมูลเพื่อทำกิจกรรมในการที่จะไปทำกิจกรรมที่เขาดินกัน โดยให้แต่ละกลุ่มคิดให้สอดคล้องกับวิทยาศาสตร์ภายในเขาดิน โดนในการทำกิจกรรมให้เวลา 15 นาที
ประเมินตนเอง :*ไม่ได้เข้าเรียน
ประเมินเพื่อน : -
ประเมินอาจารย์ :-
วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2561
สรุปการสอน
ครูสอนเกี่ยวกับเรื่องมวลในสิ่งของ ว่าอะไรลอยน้ำได้อะไรลอยน้ำไม่ได้ โ
ดย มีตัวทดสอบอยู๋ 4 ชนิด คือ
1.ก้อนหิน
2.ลูกปิงปอง
3.ลูกแก้ว
4.ยางลบ
วิธีทำการทดลอง
ครูให้เด็กๆ บอกความรู็เบื้องต้นของสิ่งของทั้ง 4 ชนิด และตั้งสมมติฐานว่า ของชนิดใดที่สามารถลอยน้ำได้ และลอยน้ำ ไม่ได้
ก่อนจะนำสิ่งของหย่อนลงในกะละมังพร้อมให้เด็กสังเกตุและตอบคำถาม
สรุปผลการทดลอง
สิ่งของที่ได้ในกลวงและมีน้ำหนักเบา จะสามารถลอยน้ำได้ สิ่งที่มีน้ำหนักมากว่า จะจมน้ำ
ครูสอนเกี่ยวกับเรื่องมวลในสิ่งของ ว่าอะไรลอยน้ำได้อะไรลอยน้ำไม่ได้ โ
ดย มีตัวทดสอบอยู๋ 4 ชนิด คือ
1.ก้อนหิน
2.ลูกปิงปอง
3.ลูกแก้ว
4.ยางลบ
วิธีทำการทดลอง
ครูให้เด็กๆ บอกความรู็เบื้องต้นของสิ่งของทั้ง 4 ชนิด และตั้งสมมติฐานว่า ของชนิดใดที่สามารถลอยน้ำได้ และลอยน้ำ ไม่ได้
ก่อนจะนำสิ่งของหย่อนลงในกะละมังพร้อมให้เด็กสังเกตุและตอบคำถาม
สรุปผลการทดลอง
สิ่งของที่ได้ในกลวงและมีน้ำหนักเบา จะสามารถลอยน้ำได้ สิ่งที่มีน้ำหนักมากว่า จะจมน้ำ
สรุปวิจัย
จุดประสงค์
การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยโดยการจัดประสบการณ์
ตามแนวการสอนแบบมอนเตสซอรี่
Development of Scientific basic skills of early childhood by using Montessori Method in learning experience management
Development of Scientific basic skills of early childhood by using Montessori Method in learning experience management
อุราณีย์ นรดี
นักศึกษาระดับปริญญาโท สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา
นักศึกษาระดับปริญญาโท สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา
จุดประสงค์
การศึกษาวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของ
เด็กปฐมวัยก่อนและหลังได้รับการจัดประสบการณ์ตามแนวการสอนแบบมอนเตสซอรี่และเพื่อศึกษา
ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมตามแนวการสอนแบบมอนเตสซอรี่
วัสถุประสงค์
1. เพื่อเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยก่อน และหลังได้รับการจัด
ประสบการณ์ตามแนวการสอนแบบมอนเตสซอรี่
2. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของเด็กปฐมวัยที่มีต่อการจัดกิจกรรมตามแนวการสอนแบบมอนเตสซอร
วิธีการดำเนินการวิจัย
1. ระเบียบวิธีวิจัย
การวิจัยการการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยโดยการจัดประสบการณ์
ตามแนวการสอนแบบมอนเตสซอรี่ เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง
2. ขั้นตอนการวิจัย
597 ระดับชาติ
กลุ่มด้านการศึกษา
2.1 แผนจัดประสบการณ์การจัดกิจกรรมตามแนวการสอนแบบมอนเตสซอรี่ จำนวน 12 แผน
2.2 แบบประเมินทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย จำ นวน 15 ข้อ
2.3 แบบประเมินความพึงพอใจ จำ นวน 5 ข้อ
การเก็บรวบรวมข้อมูล
1 นำแบบประเมินทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์มาทดสอบก่อนการจัดประสบการณ์
วิทยาศาสตร์ตามแนวมอนเตสซอรี่กับนักเรียนรายบุคคล ที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง ในการวิจัย จำ นวน 15 ข้อ
ที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้นมา บันทึกผลการประเมินที่ได้เป็นคะแนนก่อนเรียน ระหว่างเรียน และ หลังเรียน
ผลการวิจัย
เด็กปฐมวัยมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมตามแนว มอนเตสซอรี่
โดยเฉลี่ย 0.90 ( = 0.90, S.D. = 0.19) ซึ่งอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อวิเคราะห์ รายข้อพบว่า เด็กปฐมวัย
มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจสูงที่สุดคือ นักเรียนมีความสุขในการทำกิจกรรม ( = 0.96, S.D. = 0.20) รองลงมา
คือ นักเรียนอยากเล่นกิจกรรมให้นาน ๆ และ นักเรียนรู้สึกสนุกกับการทำกิจกรรม ( = 0.92, S.D. = 0.28)
เมื่อพิจารณาจำ นวนเด็กปฐมวัยที่มี ความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมตามแนวมอนเตสซอรี่รายข้อ พบว่า
จำ นวนเด็กปฐมวัยมี ความพึงพอใจในรายการ นักเรียนมีความสุขในการทำกิจกรรม มากที่สุด จำ นวน
23 คน คิดเป็นร้อยละ 95.83
วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2561
สรุปบทความ
เด็กเป็นนักค้นคว้าเพื่อการเรียนรู้โดยธรรมชาติ การหยิบจับ สัมผัส และการสังเกต เป็นวิธีการเรียนวิทยาศาสตร์ พฤติกรรมการเรียนวิทยาศาสตร์ของเด็ก คล้ายกับการเรียนเหตุผลทางคณิตศาสตร์ เช่น การจำแนก การเปรียบเทียบ การหาความสัมพันธ์ของวัตถุ การเรียนวิทยาศาสตร์และการเรียนคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยจึงพัฒนาควบคู่กัน แต่การเรียนวิทยาศาสตร์จะเน้นการเรียนทักษะวิทยาศาสตร์และธรรมชาติรอบตัว ได้แก่ เรื่องพืช สัตว์ เวลา ฤดูกาล น้ำ และอากาศร่วมด้วย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)